ทำตาสองชั้นมีกี่เทคนิค

ทำตาสองชั้นมีกี่เทคนิค ข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกันอย่างไร

ทําตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด (Suture Technique)
การทํา ตา สอง ชั้นแบบเย็บ 3 จุด เป็นวิธีการทําตาสองชั้นที่นิยมทำกันมากวิธีหนึ่ง คือ ทํา ตา สอง ชั้นโดยไม่ต้องกรีด จะใช้วิธีเย็บชั้นที่เปลือกตาโดยเจาะเป็นรูที่เปลือกตา 3 จุด ไม่เป็นแผลกรีด เหมาะกับคนที่มีตาชั้นเดียว ไขมันไม่หนา และหนังตาไม่หย่อนคล้อย เทคนิคนี้เวลาหลับตาจะเนียนไม่เห็นแผล อาการบวมช้ำหลังผ่าตัดค่อนข้างน้อย

ข้อดี
ไม่มีแผลเป็น และไม่เห็นรอยแผล
เหมาะกับคนที่ชอบชั้นตาเล็ก ธรรมชาติ
ไม่ต้องตัดไหม ไม่ต้องพักฟื้น

ข้อเสีย
ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะหนังตาตกหย่อน
ไม่สามารถทำชั้นตาใหญ่ หรือชั้นตาชัดแบบสายฝอได้

ชั้นตาหลุดง่าย
เสี่ยงต่อการเย็บทะลุเปลือกตา
ไม่สามารถตกแต่งและจัดเรียงไขมันในตาได้
ชั้นตาจะไม่คงอยู่ถาวร

ทําตาสองชั้น แบบแผลเล็ก (กรีดสั้น) (Small incision blepharoplasty)
การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น เป็นการสร้างชั้นตาขึ้นมาใหม่ มีเทคนิคในการผ่าตัดเปิดแผลขนาดเล็ก ประมาณ 0.5- 1 เซนติเมตรเท่านั้น ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย ทำให้การบวมหลังผ่าตัดน้อยมาก เหมาะกับคนที่มีหนังตาส่วนเกินและไขมันบนเปลือกตาค่อนข้างน้อย

ข้อดี
1. อาการบวมช้ำน้อย ชั้นตาเข้าที่เร็ว
2. ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย
3. แผลรอยกรีดค่อนข้างเล็ก

ข้อเสีย
1. ไม่เหมาะกับคนที่มีหนังตาส่วนเกิน หรือหางตาส่วนเกินตกหย่อน
2. สามารถจัดเรียงไขมันเปลือกตาได้เพียงเล็กน้อย
3. ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการชั้นตาสูง หรือชั้นตาชัดแบบสายฝอ

ทําตาสองชั้น แบบแผลยาว (กรีดยาว) (Long incision blepharoplasty)
การทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคนี้ เป็นวิธีที่ค่อนข้างครอบคลุม ซึ่งเป็นการผ่าตัดทำตาสองชั้นโดยการกรีดแผลยาวตลอดแนวผิวเปลือกตา โดยเริ่มจากหัวตาถึงหางตา ทำให้เห็นชั้นตาคมชัดตลอดแนว สามารถตัดตกแต่งหนังตาและหางตาส่วนเกิน ไขมันส่วนเกิน และจัดเรียงไขมันเปลือกตา เนื่องด้วยเทคนิคกรีดยาว เป็นการเปิดแผลที่มีขนาดค่อนข้างยาว ทำให้เห็นโครงสร้างของเปลือกตาได้ชัดเจนกว่าเทคนิคอื่น จึงสามารถสร้างชั้นตาได้ตามความต้องการของคนไข้ ไม่ว่าจะเป็น ตาสองชั้นแบบธรรมชาติ ตาสองชั้นแบบสายเกาหลี หรือตาสองชั้นชัดชัดแบบสายฝอ นอกจากนี้เทคนิคการทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว ยังสามารถแก้ไขกล้ามตาอ่อนแรงไปพร้อมกับการทำตาสองชั้นได้อีกด้วย สามารถแก้ปัญหาได้หลายจุดมากกว่าการทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคอื่น

ข้อดี
1. สามารถเก็บหนังตาและหางตาส่วนเกินได้ แก้ไขเรื่องหนังตาส่วนเกินตกหย่อนได้ดี
2. ได้ชั้นตาที่ถาวร ทำให้เกิดชั้นตาที่สวยชัดเจน
3. สามารถกำหนดรูปร่างและแนวชั้นตาได้ตามความต้องการ
4. เทคนิคนี้สามารถทำได้ในทุกระดับอายุ
5. เหมาะสำหรับคนที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และเบ้าตาลึก

ข้อเสีย
ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่าเทคนิคอื่น
รอยกรีดแผลยาว
หลังผ่าตัดทำตาสองชั้นอาจมีอาการบวมช้ำ
ใช้เวลารอให้ชั้นตาเข้าที่ 6-12 เดือน

ทําตาสองชั้น ด้วยวิธีเลเซอร์
เป็รการใช้เลเซอร์ที่มีชื่อว่า Plexr (เพล็กเซอร์) โดยจะใช้คลื่น Plasma ทำให้ผิวหนังบริเวณเปลือกตาส่วนที่หย่อนคล้อยหายไป เหมาะกับคนที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่มีหนังตาหย่อนคล้อย หนังตาตก เล็กน้อย และยังไม่อยากผ่าตัด ซึ่งจะได้แผลที่สวยงามกว่าการผ่าตัดตาสองชั้นแบบทั่ว ๆ ไป หมดกังวลเรื่องรอยแผลเป็น หรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ไม่ทำอันตรายกับเนื้อเยื่อหรือบริเวณข้างเคียง สามารถทำได้กับทุกสภาพสีผิว

การทำตาสองชั้นด้วยเลเซอร์ดีมั้ย เหมาะกับใครบ้าง ข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
เหมาะกับคนที่กลัวการผ่าตัด ไม่อยากผ่าตัด
เหมาะกับคนที่มีชั้นตาอยู่แล้ว แต่มีหนังตาส่วนเกินตกหย่อนลงมาเล็กน้อย-ปานกลาง

ข้อดี
คนที่มีโรคประจำตัว ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ ก็สามารถทำได้โดยวิธีเลเซอร์
คนที่ไม่อยากผ่าตัด หรือกลัวการผ่าตัด สามารถเลือกทำโดยวิธีเลเซอร์แทนได้
คนที่กลัวการเกิดแผลเป็น หรือเป็นแผลเป็นค่อนข้างง่าย
ทำให้ชั้นตาชัดขึ้น

ข้อเสีย
เปรียบเทียบกับการผ่าตัดทำตาสองชั้นแล้ว วีธีการผ่าตัดจะได้ผลดีกว่า
คนที่มีตาชั้นเดียว และต้องการมีตาสองชั้น การเลเซอร์จะไม่ตอบโจทย์
ไม่เหมาะกับคนที่มีหนังตาส่วนเกินหย่อนตกเยอะ
อายุการใช้งานค่อนข้างสั้น ไม่ถาวร

การทำตาสองชั้นในผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
อันดับแรกเรามาทำความเข้าใจเรื่องภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงกันก่อน ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) คือภาวะที่เปลือกตาบนปิดลงมามากกว่าปกติ ทำให้ตาดำไม่ครบวง ลืมตาไม่สุด ตาดูปรือ ลืมตายาก คล้ายคนง่วงนอนตลอดเวลา ดูเหนื่อยเพลีย ติดเริกหน้าผาก แต่ถ้าเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงข้างเดียวจะเห็นได้ชัดว่าตาสองข้างไม่เท่ากัน และในบางคนอาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นภายหลังจากการใช้ชีวิตประจำวัน และกล้ามเนื้อตายืดตามอายุ

สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมีหลายประเภท ความหนักเบาของอาการแตกต่างกันไป และแนวทางการรักษาก็แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางรายอาจกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย สาเหตุหลักของการเกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง มีดังนี้
• เป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมาตั้งแต่กำเนิด (Congenital Ptosis)
• อายุมากขึ้น (Involutional Ptosis)
• อุบัติเหตุหรือการผ่าตัดทำตาสองชั้นที่ผิดพลาด ก็สามารถทำให้เกิดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้
• การหลั่งสารสื่อประสาท หรือเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้ามเนื้อตาผิดปกติ เกิดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงชนิดที่เรียกว่า โรค MG

การแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
เป็นการผ่าตัดเปิดแผลโดยการทำตาสองชั้นก่อน ในการผ่าตัดนี้ หมอจะผ่่าตัดลงลึกไปถึงชั้นกล้ามเนื้อตาด้วย เพื่อปรับยกระดับเปลือกตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาที่ใช้ในการลืมตาให้เปิดกว้างมากขึ้น ช่วยแก้ปัญหาคนที่ขอบตาบนลงมาปิดตาดำมากกว่าปกติ ทำให้ตากลมโต สดใส เห็นตาดำเต็มวง

ข้อดี
1. เปิดตาดำให้เห็นชัดขึ้น
2. ช่วยให้การมองเห็นปกติขึ้น
3. ชั้นตา และขนาดของดวงตาทั้งสองข้างใกล้เคียงกันมากขึ้น
4. ได้ดวงตาที่กลมโตสดใสดูเป็นะธรรมชาติ
5. แก้ไขการเริกหน้าผาก ลดอาการปวดหัวได้ในบางราย

ข้อควรระวังในการเลือกวิธีการรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษา
คนไข้ที่เป็นโรค MG ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจผ่าตัด

ทำตาสองชั้นในผู้ที่มีปัญหาตาโหล๋ เบ้าตาลึก
ปัญหาเบ้าตาลึกส่วนใหญ่มักเกิดจากไขมันในเบ้าตาฝ่อตัว บางคนเป็นมาตั้งแต่กำเนิด หรือบางคนเป็นเพราะอายุเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีลักษณะ มีร่องลึกอยู่เหนือเปลือกตา ทำให้ตาดูโหล๋ ดูโทรม ดูเศร้า ดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา ตามีหลายชั้น รวมไปถึงทำให้หน้าดูมีอายุ

วิธีการแก้ไขตาโหล๋ เบ้าตาลึก ทำได้อย่างไร
การทำตาสองชั้นร่วมกับการย้ายไขมันที่เปลือกตา เป็นการย้ายไขมันบริเวณเปลือกตาที่ใกล้เคียงมาเติมบริเวณเบ้าตาที่ลึก (กรณีนี้ใช้ได้สำหรับคนที่มีไขมันเปลือกตาเพียงพอเท่านั้น)

การฉีดสารเติมเต็ม (Filler) หรือการฉีดไขมัน ที่เบ้าตา
สามารถทำได้ในคนที่หนังตาไม่หย่อน ซึ่งมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเป็นรายกรณี

การเติมไขมันด้วยวิธีการผ่าตัด
เป็นการผ่าตัดเอาไขมันจากบริเวณหน้าท้อง หรือก้นกบของคนไข้เอง ไปใช้เติมเบ้าตาในส่วนที่มีความลึก ซึ่งวิธีนี้เป็นการ

แก้ไขเบ้าตาลึกพร้อมกับการทำตาสองชั้น
การแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมกับการย้ายไขมัน จะทำให้ภาวะเบ้าตาลึกดีขึ้น

ข้อดี
หน้าดูเด็กลง ทำให้ดุสดใส และอ่อนเยาว์มากขึ้น
ดวงตาสดใส ดูมีสุขภาพ

ข้อเสีย
1.มีอาการบวมนานกว่าการทำตาสองชั้นแบบทั่วทั่วไป
2.ใช้เวลาในการเข้าที่ช้ากว่าปกติ
3.ไขมันที่เติมเข้าไปมีดอกาสฝ่อตัวลงได้

การเปิดหัวตา คืออะไร
การทำตาสองชั้นร่วมกับการเปิดหัวตา การเปิดหัวตา เป็นเทคนิคการผ่าตัดตกแต่งเนื้อหรือหนังตาที่คลุมปิดด้านหัวตา เพื่อให้บริเวณหัวตาดูกว้าง เห็นชั้นตาบริเวณหัวตาชัดขึ้น ความโค้งของชั้นตาบริเวณหัวตาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น มักทำร่วมกับการทำตาสองชั้น โดยเฉพาะในเคสที่หนังตาลงมาปิดบริเวณหัวตา ทำให้ตาดูเหล่ หรือผู้ที่อยากได้ชั้นตาใหญ่ แต่มีหัวตาปิด การเปิดหัวตานี้ก็จะส่งผลให้รูปตาเรียวยาว ตาดูหวาน ตาโตขึ้น มีมิติ แลดูสดใสมากยิ่งขึ้น

ข้อดี
1. ทำให้เห็นชั้นตาตั้งแต่บริเวณหัวตา
2. ตามีรูปร่างเรียวยาวขึ้น
3. ช่วยแก้ปัญหาตาเหล่ได้

ข้อเสีย
สามารถเกิดแผลเป็นที่บริเวณหัวตาค่อนข้างง่าย
หากมีการเปิดหัวตาแล้ว จะไม่สามารถศัลยกรรมให้หัวตากลับมาปิดได้อีก
หากเปิดมากเกินไปจะส่งผลกับการศัลกรรมจมูกในอนาคตได้

ตาแบบไหนเหมาะกับกรีดสั้น
กรีดสั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาตาชั้นเดียว ชั้นตาเล็ก ไม่เท่ากัน หรือชั้นตาหลบใน โดยการทำตาแบบกรีดสั้น ได้ผลดีกับผู้มีไขมันบริเวณเปลือกตาน้อย โดยเฉพาะคนไทยที่มีดวงตาเล็ก

ตาแบบไหนเหมาะกับกรีดยาว
กรีดยาว การทำตาแบบกรีดยาว เหมาะกับผู้มีปัญหาหางตาตก เปลือกตาหย่อนคล้อยเนื่องจากอายุที่มากขึ้น จนบดบังการมองเห็น จึงต้องกรีดยาวนำไขมันออกก่อน และอาจจำเป็นต้องตัดหนังตาส่วนเกินออก ก่อนเย็บชั้นตา เพื่อให้ตาดูสมส่วนมากขึ้น

TOP